เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านแวง
เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนแวงพิทยาคม
วัยเรียน (อายุ ๖-๑๒ ปี) ทฤษฎีจิตวิเคราะห์เรียกว่า ระยะลาเทนซี (latency period) เด็กจะมุ่งไปทางการเรียนและออกกำลังกาย เริ่มพึ่งพาบิดามารดาน้อยลง มักสนใจเข้าพวกเข้าหมู่ ชอบคบเพื่อนเพศเดียวกัน การเข้าหมู่คณะทำให้เขาได้เรียนรู้กฎเกณฑ์ของสังคม สิทธิของบุคคล ความยุติธรรมและความรู้สึกรับผิดชอบ การเล่นกลางแจ้งมีความสำคัญเพราะจะช่วยทั้งสุขภาพทางกาย ทักษะ และให้เขาได้มีทางออกของอารมณ์ เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด นอกจากนี้ เขาจะได้ฝึกความอดทน การรักหมู่คณะการรู้จักแพ้ชนะ และเขาเริ่มมีเพื่อนสนิทเพศเดียวกัน
ปัจจุบัน เด็กได้รับอิทธิพลจากโทรทัศน์ วิทยุหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสียต่อเด็ก ผู้ใหญควรตัดสินว่าสิ่งใดควรไม่ควร และกำหนดขอบเขตให้เขา งานวิจัยหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาแสดงผลว่าสื่อมวลชนมีอิทธิพลต่อเด็ก ทั้งในทางดีและไม่ดีโดยเฉพาะในทางก้าวร้าวมักให้ผลลบมากกว่า
อีริคสันเรียกวัยนี้ว่า "ระยะอุตสาหะ หรือระยะทำให้สำเร็จ" (Stage of Industry) ถ้าเด็กทำอะไรสำเร็จในระยะนี้ เขาควรได้รับการสนับสนุนให้กำลังใจ ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตของเขาอย่างมาก ผู้ที่ผ่านระยะนี้ไปได้ด้วยดี จะไม่มีความรู้สึกว่าตนมีปมด้อย หรือบกพร่อง
เมื่อเด็กทำสำเร็จ เขาควรได้รับคำชมเชย แต่ผู้ใหญ่ส่วนมากเข้าใจผิด กลัวเด็กเหลิง แท้จริง การชมเชย เมื่อเขาทำดีกลับเป็นการให้กำลังใจ และทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวิริยะอุตสาหะ การชมเชยที่ถูกต้องคือการชมเชย "การกระทำ" มิใช่ชม "ตัวเด็ก" ตัวอย่างเช่น เมื่อเขาช่วยถูเรือน ควรบอกเขาว่า "เขาทำให้พื้นสะอาดน่านั่งเล่น นอนเล่น" หรือเมื่อเขาแต่งโคลง แทนที่จะชมว่าเขาเก่งเหลือเกินควรบอกเขาในทำนองว่า โคลงบทนี้ไพเราะมาก