ข่าวภัยพิบัติ

ข่าวภัยพิบัติธรรมชาติสึนามิที่ญี่ปุ่นถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด

รัฐบาลญี่ปุ่นมอบไอโอดีนให้ประชาชาป้องกันกัมมันตภาพรังสี เชื่อคนตาย-สูญหายถึง 1,700

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำการแจกจ่ายไอโอดีนให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกูชิม่า หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งหนึ่งของจังหวัดดังกล่าว ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ เพราะสารไอโอดีนจะสามารถช่วยป้องกันร่างกายของมนุษย์จากภัยที่เกิดจากแรงระเบิดของสารกัมมันตภาพรังสีได้

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายล่าสุดของเหตุการณ์แผ่นดินไหว-สึนามิถล่มครั้งนี้ น่าจะอยู่ที่มากกว่า 1,700 ราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อกับประชากรจำนวน 9,500 คน ในเมืองๆ หนึ่งได้ ภายหลังเหตุหายนะภัยดังกล่าว

พบกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลหลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นระเบิด!

มีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิม่า 1 ในประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยควันไฟขนาดใหญ่ได้พวยพุ่งออกมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกูชิม่า ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทาง 250 กิโลเมตร และมีพนักงานในโรงไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บ 4 คน

ณ ปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นกับส่วนใดของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งนั้น และเหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด

องค์การพลังงานปรมาณูของญี่ปุ่น ระบุว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเชื้อเพลิงจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งกำลังเริ่มรั่วไหลออกมา และระบุว่า มีการพบสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิม่า 1 จังหวัดฟูกูชิม่า

ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นที่พื้นที่บริเวณโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกิชิม่า 1 และ 2

ขณะที่นายยูกิโอะ เอดาโน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ระบุว่า ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญกำลังพยายามตรวจสอบอยู่ว่าปริมาณสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีมากเพียงใด

โดยประชาชนหลายพันที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ใกล้โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ได้ถูกสั่งให้อพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่าสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมานั้นมีปริมาณที่ "เล็กน้อยมาก"

เช่นเดียวกับเจ้าหน้าด้านพลังงานปรมาณูและผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่า การรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีครั้งนี้จะไม่นำไปสู่หายนะภัยดังที่เกิดขึ้นกับโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิลของสหภาพโซเวียต

"ความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดในกรณีนี้ก็คือ จะมีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาและมีอุปกรณ์ในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ได้รับความเสียหาย แต่จะไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น ถ้าระบบระบายแรงดันของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้รับการแก้ไขอย่างระมัดระวัง ก็จะมีการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย และรั่วไหลในระยะไม่เกินรัศมี 3 กิโลเมตร" นาโอโตะ เซกิมูระ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าว

ด้านนายวอลต์ แพ็ทเทอร์สัน นักวิชาการจากสถาบันวิจัยชาแธม เฮาส์ แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ยังเป็นการเร็วไปที่จะบอกว่า เหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิม่าในประเทศญี่ปุ่น จะส่งผลร้ายแรงในระดับเดียวกันกับเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลหรือไม่

โดยเขาวิเคราะห์ว่าเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิม่าน่าจะเกิดขึ้นการที่เชื้อเพลิงเหลวในโรงงานไปมีสัมผัสกับน้ำ

ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มทะลุหลักพัน

ข้อมูลตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่นล่าสุด มีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 400 คน และมีผู้สูญหายอีก 784 ราย โดยคาดว่าผลสรุปสุดท้าย น่าจะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 1,300 คน

สื่อยุ่นคาดยอดคนตายพุ่งทะลุหลักพัน

สำนักข่าวจิจิ เพรส ของญี่ปุ่น รายงานว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 8.9 ริกเตอร์ และสึนามิผ่านไปได้ 18 ชั่วโมง ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นหลายครั้ง โดยขนาดใหญ่สุดรุนแรงถึง 6.7 ริกเตอร์ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 402 คน แต่สำนักข่าวเกียวโดคาดจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่า 1,000 คน และได้รับรายงานเกิดเพลิงไหม้กว่า 80 แห่งในกรุงโตเกียว

เอเอฟพีรายงานยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุหลัก 200

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นได้พุ่งขึ้นสูงถึง 288 คนแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 349 คน

คาดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่นจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ ที่ประเทศญี่ปุ่น จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสื่อญี่ปุ่นเผยแพร่ข่าวว่า พบร่างของประชาชนราว 300 คน ที่บริเวณเมืองท่าเซนได ซึ่งสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคระบุว่าเหยื่อเหล่านั้นน่าจะเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย

ขณะเดียวกัน โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงกลั่นน้ำมันในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวก็ประกาศปิดทำการ โดยก่อนหน้านั้น ได้เกิดเพลิงไหม้และเหตุระเบิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง


ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาะกวม ประกาศเตือนภัยสึนามิถล่ม


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาะกวม ฮาวาย ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว โดยฟิลิปปินส์ได้สั่งอพยพชุมชนในเขตชายฝั่งย่านภาคตะวันออกของประเทศ ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ โดยทางการฟิลิปปินส์ประเมินว่า อาจเกิดคลื่นสูง 1 เมตรกระทบเกาะบาตาเนส ในช่วง 05.00 น.ก่อนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น และได้สั่งให้อพยพราษฎรให้อยู่บนที่สูงเหนือระดับพื้นทะเล 5 เมตรแล้ว
   
ส่วนไต้หวัน หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาได้เตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณฝั่งตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศให้ระวังคลื่นสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะมาถึงเมืองฮัวเลียนและไต้ถุงและเมืองกีลุง

นอกจากนี้ เกาะกวม ยังได้เคลียร์พื้นที่บริเวณชายฝั่งภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดสึนามิรุนแรงในญี่ปุ่นด้วย


ศูนย์เตือนภัยสึนามิภาคพื้นแปซิฟิคได้ออกคำเตือนเหตุสึนามิแล้วในประทศต่างๆดังนี้ ญึ่ปุ่น, รัสเซีย, เกาะมาร์คัส, นอร์เธิร์น มารีน่า, เกาะกวม, เกาะเวค, ไต้หวัน, เกาะแยป, ฟิลิปปินส์, เกาะมาร์แชล, เกาะเบเลา, เกาะมิดเวย์, เกาะพอห์นเปย, เกาะชุค, เกาะคอสเร, อินโดนีเซีย, ปาปัว นิวกีนี, เนารู, เกาะจอห์นสตัน, เกาะโซโลมอน, คิริบาติ, เกาะโฮว์แลนด์-เบเกอร์, ฮาวาย, ตูวาลู, เกาะพัลมีรา, วานูอาตู, เกาะโทเคเลา, เกาะจาวิส,เกาะวอลลิส-ฟูทูนา, ซามัว, อเมริกัน ซามัว, หมู่เกาะคุ๊ก, เกาะนุย, ออสเตรเลีย, ฟิจิ, นิว คาลิโดเนีย, ตองก้า, เม็กซิโก, เกาะเคอร์มาเด็ค, ฟรานซ์ โพลินีเซีย, นิวซีแลนด์, เกาะพิทแคร์น, กัวเตมาลา, เอล ซัลวาดอร์, คอสตาริก้า, นิคารากัว, แอนตาร์คติก้า, ปานามา, ฮอนดูรัส, ชิลี, เอควาดอร์, โคลอมเบีย และเปรู


นายกฯญี่ปุ่นรับเสียหายมหาศาลหลังแผ่นดินไหวใหญ่ ปชช.ตายแล้ว 90 ราย

ด้านนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญีปุ่น เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่โรงงานนิวเคลียร์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ด้านนายยูกิโอะ อิดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทางการได้ส่งทหารเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเพื่อปฎิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทางการยังได้สั่งปิดโรงงานนิวเคลียร์และโรงกลั่นน้ำมันบางแห่ง ขณะที่โรงงานเหล็กขนาดใหญ่ ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกท่วมด้วย

ทั้งนี้ สำหรับเมืองมิยางิ และพื้นที่รอบใกล้ นั้น เป็นสถานที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่ของประเทศ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงงานอีเล็คทรอนิคส์ และโรงงานปิโตรเคมี ด้วย

แผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.9 ริกเตอร์ถล่มนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ บนเกาะฮอนชู ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.46 น.ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ (11 มี.ค.) โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้เปลือกโลกประมาณ 10 กม. และห่างจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกประมาณ 125 กม.  ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิกวาดรถยนต์หลายสิบคัน รถยนต์ และรถบรรทุก หรือแม้แต่ซัดอาคารที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง ของเมืองกาไมชิ ซึ่งตั้งใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ เรือขนาดใหญ่ยังถูกกวาดซัดเข้ากระแทก ในเมืองเคเซ็นนูมะ ในจังหวัดมิยางิ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้พยายามจะประเมินความเสียหาย ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยังได้เกิดอาฟเตอร์ช็อครุนแรงตามมาหลายครั้ง และทางการได้เตือนว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามึสูง 10 เมตร จากแผ่นดินไหว

ส่วนที่กรุงโตเกียว ยังเกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตึกอาคารขนาดใหญ่ได้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทำให้พนักงานแห่หนีตายออกจากบ้านเรือนเพื่อเอาตัวรอด นอกจากนี้ ภาพทางโทรทัศน์ยังแสดงให้เห็นอาคารใหญ่เกิดไฟไหม้ ในเขตโอไดบะ ด้วย ส่วนตอนกลางของกรุงโตเกียว ผู้โดยสารในรถไฟใต้ดิน ยังได้กรีดร้องและพากันจับมือกันเพราะความกลัวแรงสั่นสะเทือน โดยแผ่นดินไหวเป็นไปอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้คนแทบจะทรงตัวไม่ได้ นอกจากนี้ พนักงานออฟฟิศและผู้ซื้อสินค้า ในเขตอากาซาก้า หลายร้อยคน ยังแห่หนีออกจากตึกอาคารมาอยู่บนถนนด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บในกรุงโตเกียวด้วย

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า แผ่นดินไหวยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกท่วมอาคารหลายแห่งด้วย รวมทั้งในเขตไอโซโกะ ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมก็ต้องเผชิญเพลิงไหม้เกิดเป็นควันเพลิงขนาดใหญ่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รวมทั้งเกิดเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันด้วย

ทางด้านชาวโตเกียวบางรายยังได้หนีออกจากร้านกาแฟหลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง โดยเขากล่าวว่า เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นในกรุงโตเกียวเมืองหลวง

เตือนภัย "สึนามิ" ถล่มญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน ทางด้านศูนย์ตรวจสอบสึนามิของสหรัฐ ยังได้ขยายการเตือนภัยคลื่นสึนามิไปยังเกาะฮาวาย ชายฝั่งแปซิฟิกทั้่งหมด รวมทั้งออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ ด้วย

สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ประกาศคำเตือน "คลื่นสึนามิ" ว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์ขนาดความสูง 6 เมตร เข้ากระหน่ำชายฝั่งจังหวัดมิยางิ ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับศูนย์กลางที่สุด

ศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิคบนเกาะฮาวาย ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิเช่นกัน ซึ่งจะมีผลในญี่ปุ่น รัสเซีย เกาะมาร์คัส หมูเกาะมารีน่า นอกจากนั้นยังได้ออกคำเตือนในไต้หวัน เกาะกวม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และรัฐฮาวายของสหรัฐฯ

ขณะที่สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เกิดคลื่นสึนามิขนาด 50 เซ็นติเมตร พัดเข้าชายฝั่งตะวันออกบริเวณใกล้กับจุดศูนย์กลาง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทำให้รถยนต์ รถบรรทุก บ้านเรือน และอาคารจำนวนหนึ่งถูกคลื่นพัดพาแลลอยไปตามน้ำ ที่เมืองโอนาฮามะ จังหวัดฟูกุชิม่า
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีประชาชนจำนวน 100 คน ที่สูญหายไปพร้อมกับเรือโดยสารที่ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นสึนามิหลังเหตุแผ่นดินไหว เช่นกันกับรถไฟโดยสารขบวนหนึ่งที่ขาดการติดต่อไปหลังเหตุภัยพิบัติดังกล่าว

นายกฯญี่ปุ่นแถลงแสดงความเสียใจไปยังผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ส่วนเหตุไฟไหม้โรงงานนิวเคลียร์ยังไม่พบการรั่วของสารเคมี-กัมมันตรังสีแต่อย่างใด

ผู้นำญี่ปุ่นเผย แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 300 ปี ระบุ พร้อมรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ

กระทรวงต่างประเทศเตรียมช่วยเหลือชาวไทยในจ.มิยางิ

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าเหตุแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดรุนแรงถึง 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิถล่มเข้าชายฝั่ง สูง 10 เมตร โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือจ.มิยางิ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น โดยมีคนไทยอยู่ในจ.มิยางิราว  300 คน ส่วนใหญ่แต่งงานกับชาวญี่ปุ่น และมีนักเรียนบางส่วน  โดยขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตกำลังรีบประสานเพื่อตรวจสอบว่า คนไทยในมิยางิต้องการความช่วยเหลือใดบ้าง  อย่างไรก็ดีเนื่องจากกรุงโตเกียวก็ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวด้วย ทำให้ทางการโตเกียวได้สั่งการให้ประชาชนอพยพออกจากตึกซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยด้วย

นายธานีกล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นมีคนไทยในญี่ปุ่นราว 5 หมื่นคน  โดยอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวมีราว 2-3 หมื่นคน  จากเหตุแผ่นดินไหวทำให้การคมนาคมและการสื่อสารทำได้ลำบาก อย่างไรก็ตามสถานทูตจะเร่งประสานกับชุมชนคนไทยเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป  และหากคนไทยที่ไม่สามารถติดต่อญาติพี่น้องในญี่ปุ่นได้ในระหว่างนี้เพราะระบบสื่อสารได้รับผลกระทบให้ติดต่อไปยังกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ในเวลาราชการที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 575 1046-9  และนอกเวลาราชการที่หมายเลข 02 -643 5000  เพื่อฝากให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับญาติพี่น้องที่ญี่ปุ่นต่อไป

นายธานีกล่าวอีกว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้คนไทยที่มีแผนการจะเดินทางไปยังญี่ปุ่น ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้ทางการไทยยังไม่มีความจำเป็นที่จะออกประกาศห้ามเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น  และขณะนี้ทางกระทรวงได้ประสานไปยัง สถานเอกอัครราชทูต ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงจะเกิดสึนามิและแผ่นดินไหวให้เตรียมแผนการรองรับเพื่อดูแลคนไทยในประเทศนั้นๆ